โอกาสช่องทางการกระจายสินค้าอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล

          ปัจจุบันกระแสการตลาดของสินค้าอุตสาหกรรมได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสื่อดิจิทัลเข้ามาช่วยในการกระจายสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อให้ธุรกิจมียอดขายเพิ่มมากขึ้น และเป็นโอกาสโปรโมทแบรนด์ธุรกิจให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงกลุ่ม ซึ่งการขายผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อออนไลน์ เป็นการขายในลักษณะ E-commerce ซึ่งเป็นการขายผ่านหน้าโฮมเพจเว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เพราะปัจจุบันผู้คนนิยมใช้เครื่องมือสื่อสารแบบสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตในชีวิตประจำวัน สำหรับการทำงานและค้นหา ร่วมไปจนถึงการติดต่อสื่อสาร ทำให้การทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์สำหรับธุรกิจได้ผลตอบรับที่ดีกว่า แต่ทั้งนี้การขายแบบออฟไลน์ก็ยังคงมีความสำคัญอยู่เช่นกัน

ช่องทางการตลาดออนไลน์สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมมีช่องทางใดบ้าง

1. Social Media Marketing

          เป็นช่องทางการทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน ได้แก่

  • Facebook โดยแต่ละธุรกิจจะมีการเปิดบัญชี Facebook Fanpage เป็นของตัวเอง เพื่อโพสโปรโมทขายสินค้าหรือบริการ โดยอาจจะมีการสร้าง Content ที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ หรือมีการจัดโปรโมชั่นประจำเดือน เพื่อโปรโมทสินค้านั้นๆ
  • Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการใช้รูปภาพและวิดีโอ สำหรับธุรกิจต่าง ๆ สามารถกระตุ้นการรับรู้และขยายฐานลูกค้าผ่านการโฆษณาบน Instagram
  • Twitter ทวิตเตอร์สื่อออนไลน์อีกรูปแบบหนึ่งที่มีเอกลักาณ์เฉพาะตัว ด้วยลักษณะเฉพาะอันโดดเด่นด้วยการจำกัดตัวอักษรในการทวีต (Tweet) ไว้เพียง 280 ตัวอักษร ทำให้การสื่อสารอาจจะต้องกระชับ น่าสนใจ และสามาระเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยกลางคน
  • LINE Official Account หรือที่รู้จักกันว่า Line OA เครื่องมือบนมือถือที่ง่ายต่อการใช้งาน ที่ใช้ในการสื่อสาร การดูแลความสัมพันธ์กับลูกค้า เป็นช่องทางการพูดคุยกับแบรนด์ที่ง่ายที่สุด เพราะ LINE เป็นแอปพลิเคชั่นแชท จึงทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถถามคำถามได้สะดวกและเมื่อมีข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจ
  • Tiktok  เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีเน้นการสร้างและแชร์วิดีโอสั้น ๆ เพื่อสร้างความสนุกสนาน โดยสามารถใส่ลูกเล่น ฟิลเตอร์ ภาพ วิดีโอ และเสียงประกอบ โดยจุดเด่นของ Tiltok  คือคอนเทนต์ที่ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอหรือเป็นเรื่องราวที่ผู้คนสนใจ ณ เวลานั้น

          แต่ทั้งนี้การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ต้องอาศัยองค์ประกอบอีกหลายอย่าง เช่น การสร้าง Content รูปภาพแบนเนอร์ที่น่าสนใจ การยิงแอดโฆษณาร่วมด้วย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน และเพื่อผลลัพธ์ของยอดขายที่เพิ่มขึ้น

2. SEO (Search Engine Optimization)

          กระบวนการปรับปรุงหรือปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้เนื้อหามีคุณภาพ การเพิ่ม Backlink คุณภาพให้กับเว็บไซต์เพื่อโปรโมตเว็บไซต์ให้ติดอยู่ในอันดับต้นๆ ในส่วนของ Organic Search บน Search Result Page ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการให้กับธุรกิจได้

3. Online Marketplace

          เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายสินค้าช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่รวบรวมสินค้า มีร้านค้า และบริษัทจำนวนมากรวมไว้ด้วยกัน ซึ่งลูกค้าเข้าชมและเลือกสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง Marketplace แบบออนไลน์สามารถตอบโจทย์ได้ดีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ช่วยให้สะดวก ประหยัดเวลา มีสินค้าให้เลือกอย่างหลากหลาย ส่วนผู้ขายสามารถประหยัดในเรื่องของค่าเช่าพื้นที่ ค่าจ้างพนักงาน อีกทั้ง Marketplace ยังมีตัวเลือกช่องทางการชำระหลากหลายรูปแบบให้เลือก

4. Email Marketing

          การทำการตลาดผ่าน Email Marketing ยังคงเป็นอีกช่องทางที่ได้ว่าผลลัพธ์ที่ดี เพราะเป็นการสร้าง Engagement ทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วม เนื่องจากการส่งข้อมูลจะมุ่งตรงไปที่ Email ของลูกค้าโดยตรง ทำให้ลูกค้ามีโอกาสเปิดอ่านเพื่อรับทราบข้อมูลสินค้า ข่าวสาร โปรโมชั่น และนอกจากนี้แล้วใน Email สามารถแนบลิ้งก์ รูปภาพ วิดีโอ ซึ่งที่เป็นอีกช่องทางที่ลูกค้าจะเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าในเว็บไซต์

5. Youtube

          การทำการตลาดออนไลน์สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมกำลังเป็นที่นิยม โดยสามารถนำเสนอเป็นวีดิโอสำหรับการแนะนำ การใช้งาน รายละเอียดของผลิตภัณฑ์ หรือสามารถแนะนำธุรกิจของท่านได้ เพราะ Youtube สามารถช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพอย่างชัดเจน ทั้งยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้อีกด้วย

6. Influencer Marketing

          ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการตลาดที่มีอิทธิพลในโลกอินเตอร์เน็ต เพราะการที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์มาทำการตลาดเป็นการสร้างแรงจูงใจ ดึงดูดให้ลูกค้าสนใจในสินค้าและบริการ ซึ่ง Influencer ส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้มีชื่อเสียง นักแสดง ศิลปิน ไอดอล บล็อกเกอร์ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมากเสมอไป แต่ควรเป็นคนที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

          การทำการตลาดออนไลน์สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม หรือการตลาด B2B การสำรวจความต้องการตลาด การวางแผนการตลาด กลยุทธ์ที่ใช้ และการสื่อสารไปยังลูกค้าประเภทองค์กรได้อย่างถูกต้อง โดยใช้สื่อทันสมัยอย่าง เว็บไซต์ และ Social Media ต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึง ขยายฐานลูกค้า ทำให้ธุรกิจของผู้ประกอบการมีรายได้และมีกำไรเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้การใช้บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจและการตลาดออนไลน์อย่าง บริษัท แบรนด์เด็กซ์ ไดเร็กทอรี่ จำกัด ก็เป็นอีกทางเลือกที่ผู้ประกอบการสามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว เนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจ B2B มีเครื่องมือเทคโนโลยีและโปรแกรมที่ทันสมัย พร้อมด้วยบุคลากรที่มีความริเริ่มสร้างสรรค์ Content การเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด และการดำเนินงานของบริษัทฯ ภายใต้ระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 : 2015 เราพร้อมที่จะทำให้ธุรกิจของท่านเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเป็นที่รู้จักในแวดวงอุตสาหกรรม